ทำไม ธุรกิจข้าว จึงน่าลงทุน


  

ยุคนี้ สมัยนี้ คำถามยอดฮิตที่เกิดขึ้นกับผู้คนคงไม่พ้นคำว่า

“ทำธุรกิจอะไรดี”

ซึ่งมันเกิดจากการที่ สภาพเศรษฐกิจโดยรวมค่อนข้างจะตกต่ำ หางานทำก็ไม่ง่าย

 

      ภาพโดย William Iven จาก Pixabay

 

เพราะแม้แต่บริษัทใหญ่ๆ ก็มีการปลดคนงานและเลิกจ้างงานให้เห็น รวมไปถึงคนที่เคยประกอบธุรกิจมาก่อน หลายๆ แนวทางก็ติดขัดสะดุดลงเพราะสภาพเศรษฐกิจแบบนี้เช่นกัน 

 

ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่จะถามเกิดคำถามในเชิงหาโอกาสในการทำธุรกิจส่วนตัว เพื่อเลี้ยงตัวเองและไม่ต้องเสี่ยงกับปัญหาการถูกเลิกจ้าง อีกทั้งยังสามารถกำหนดแนวทางในการทำธุรกิจด้วยตนเองได้

 

.........................

อยากทำ

ธุรกิจส่วนตัว

อาจจะต้องเริ่มจาก

การทำธุรกิจเล็กๆ ไปก่อน

.........................

 

เพื่อใหเ้ราได้เรียนรู้อย่างรวดเร็ว ลงทุนน้อยเท่าที่เราพอทำได ้และสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้คล่องตัวเพื่อรับสถานการณ์ นี่เป็นแนวคิดในการเริ่มทำธุรกิจที่เหมาะสม กับคนที่อยากเริ่มต้นใหม่และไม่ต้องการทุ่มเงินลงทุนมาก

แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนมากไปติดตรงเรื่องของคำถามที่ว่า ทำธุรกิจอะไรดี เสียก่อน ดังนั้นหลักการที่กล่าวมาข้างต้นแม้จะดูดีและสมบูรณ์แบบมันก็มักจะเป็นหมัน ไม่ได้เริ่มต้นสักที

 

เอาล่ะ หากว่ายังไม่แน่ใจว่าจะไปทางไหน ลองมาดู ธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ และเป็นสินค้าที่มีความต้องการของตลาดอยู่ตลอด นั่นก็คือ

 

.........................

การเปิดร้านขายข้าวสาร 

.........................

 

 

ขายข้าวสารดีไหม? นี่อาจจะเป็นคำถามที่ตามมาหลังจากอ่านข้อความด้านบน ขอให้ลองพิจารณาตามนี้...

 

1. ข้าว เป็นอาหารหลักของคนไทยทั้งประเทศ

ทุกบ้านกินข้าว และส่วนใหญ่ต้องซื้อข้าวเพื่อการบริโภค ไม่ต้องคิดที่ไหน ไกลแค่ในครัวเรือนของเรา และในละแวกที่เราอยู่ทุกบ้านต้องการข้าวแทบทั้งสิ้น ดังนั้นเรามีกลุ่มลูกค้าที่พร้อมซื้อ สินค้าชนิดนี้ของเราแน่นอน

 

2. ข้าวสาร เป็นสินค้าที่เก็บได้นาน

หากมีการจัดเก็บที่ถูกต้องและเหมาะสม ดังนั้นแม้ในช่วงแรกในการเริ่มทำธุรกิจนี้ เราจะยังไม่มีลูกค้ารู้จักมากนัก ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาทางรีบขาย ยังมีเวลาที่จะสามารถรอได้สินค้าจัดเก็บง่าย โดยเฉพาะที่เป็น ข้าวถุง ที่บรรจุมาในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิท ทำใหเ้ก็บรักษาคุณภาพเอาไว้ได้นาน

 

3. มีโอกาสขยายธุรกิจได้รวดเร็ว

เนื่องจากข้าวเป็นที่ต้องการของคนส่วนมาก และมีธุรกิจอื่นที่ต้องการข้าวเป็นปริมาณมาก เราสามารถพัฒนาจากการขายปลีกให้ลูกค้ารายย่อยไปสู่การขายตรงสู่ร้านอาหาร หรือ ผู้ประกอบการที่ต้องการ ใชข้าวเป็นวัตถุดิบจำนวนมากได ้นี่เป็นโอกาสในการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว 

 

เพียง 3 ข้อนี้ ก็น่าจะพอตอบคำถามที่ว่า ทำธุรกิจอะไรดี? ได้แล้ว ก็ลองพิจารณาดูว่า

 

เรามีความพร้อมแค่ไหน

เพราะเรื่องที่เราต้องทำเพียงอย่างเดียว

เพื่อให้ประสบความสำเร็จ ก็คือ

การทำให้ผู้ที่ต้องการสินค้า รับรู้การดำเนินธุรกิจของเรา

และทำให้เขามาเป็นลูกค้า เท่านั้นเอง!

 

 

 

 

 


Visitors: 47,598